ก่อนอื่นของบอกผู้อ่านไว้ก่อนเลยว่าถ้าใครยังไม่ได้ดูหนังเรื่องนี้ ผมแนะนำให้เลิกอ่านบทความของผมเดี๋ยวนี้ รีบไปหา DVD หนังเรื่องนี้มาดูแล้วค่อยกลับมาอ่านบทความของผมต่อ ถ้าคุณยังไม่อยาก...เสียอรรถรสจากดูหนังที่ผมคิดว่ามีสาระเกี่ยวกับการลงทุนมากที่สุดเท่าที่เคยดูมา ถ้าท่านเคยดูแล้ว หรือคิดว่าจะไม่ดูแน่ๆก็เชิญอ่านต่อไปได้ครับ
Moneyball เป็นหนังที่สร้างมาจากนิยายเรื่อง Moneyball: The Art of Winning an Unfair Game ซึ่งเขียนเกี่ยวกับชีวประวัติจริงๆของ Billy Beane ผู้จัดการทั่วไปของทีมเบสบอล Oakland Athletics ในช่วงปี 2002 หลังจากทีม Athletics พ่ายแพ้แก่ New York Yankees ในปี 2001 Beane ต้องทนเห็นซุปเปอร์สตาร์ในทีมทยอยเดินจากทีมไปอยู่กับทีมที่เงินหนากว่า ด้วยงบประมาณที่มีอยู่จำกัด การจะหาผู้เล่นระดับท๊อปมาแทนที่ก็เป็นไปไม่ได้ แค่การรักษาผู้เล่นเก่าก็ยากแล้ว Beane ไม่สามารถเล่นตามเกมของทีมเงินหนาอย่าง Yankees ได้จึงจำเป็นต้องหาวิธีการทำทีมใหม่เพื่อสู้กับทีมที่มีงบประมาณมากกว่า 3 เท่า (41 ล้านเหรียญกับ 125 ล้านเหรียญ)
Peter Brand นักเศรษฐศาสตร์หนุ่มจบใหม่เสนอวิธีการจัดหาผู้เล่นที่เหมาะสมเข้าทีมในรูปแบบที่วงการเบสบอลไม่เคยเห็นมาก่อน โดยเสนอให้มองข้ามรูปลักษณ์ที่เห็นอยู่ภายนอก ด้วยการนำเอาสถิติของผู้เล่นแต่ละคนในด้านต่างๆมาพิจารณา แล้วเลือกผู้เล่นจากสิ่งที่ทีมอยากได้จากเขาเหล่านั้นจริงๆ
วิธีการทั่วๆไปที่แมวมองเบสบอลสมัยนั้นใช้จะเป็นการพิจารณาแบบผิวเผิน เช่น ดูจากการทำแต้ม สถิติการขว้าง หรือสถิติการตี รวมถึงรูปลักษณ์ภายนอก เช่น ความเป็นดาราดึงดูดแฟนเบสบอลเข้าสนาม ดูหน่วยก้าน หรือกระทั่งดูแฟน (ถ้านักเบสบอลคนไหนแฟนสวย แสดงว่ามีความมั่นใจสูงถึงกล้าจีบคนสวย) ผลก็คือแมวมองเหล่านี้ก็มันจะมาสนใจนักเบสบอลคนเดียวกัน ส่งผลให้ค่าตัวของนักเบสบอลเหล่านั้นพุ่งสูงเกินจริง ทั้งๆที่ทีมอาจไม่ได้ต้องการสิ่งเหล่า นี้ก็ได้ ทีมเบสบอลมี Pitcher ขว้างได้ครั้งละคน มี Butter ตีได้ครั้งละคน คนทำแต้มได้ไม่ใช้คนตีโดน หรือขว้างดี แต่เป็นคนที่ทำเบสได้มากที่สุดต่างหาก
Brand นำเอาสถิติต่างๆมาพิจารณาอย่างละเอียด แล้วเลือกผู้เล่นที่ทำได้ดีที่สุดในสิ่งที่แผนการเล่นของทีมต้องการ เขาไม่ได้เลือกนักเบสบอลที่ทำแต้มได้มากที่สุด แต่เขาเลือกคนที่ทำเบสได้มากที่สุด เขาไม่ได้เลือกคนที่ตีแม่นที่สุด แต่เขาเลือกคนที่เอาฟาวล์จากคู่แข่งได้มากที่สุด เขาไม่ได้เลือกคนที่ขว้างแรงที่สุด แต่เขาเลือกคนที่ท่าขว้างประหลาดที่สุดจนคู่แข่งจับทางไม่ได้ ทำให้ทีมของ Beane เต็มไปด้วยนักเบสบอลที่เข้าข่าย “ประหลาด” แต่ค่าตัวถูก เช่น แก่เกินแกง หัวเข่าไม่สมบูรณ์ หรืออ้วนลงพุง เป็นต้น ในจำนวนนี้บางคนต้นสังกัดเดิมถึงกับยอมออกค่าเหนื่อยช่วยเพื่อผลักไสให้ไปพ้นๆทีมเสียด้วยซ้ำไป
ในช่วงต้นฤดูกาล 2002 ผลงานของทีมประหลาดของ Beane ย่ำแย่ถึงขีดสุด พ่ายแพ้อย่างต่อเนื่องลงไปกองบ๊วยของ Major League นั่นเพราะโค้ชของทีมไม่ได้ศรัทธาในแนวทางของ Beane จึงยังจัดผู้เล่นลงสนามแบบเดิมๆ ซึ่งไม่สอดคล้องกับผู้เล่นที่ถูกดึงเข้ามาเพื่อให้เล่นตามแผนการเล่นของ Beane และ Beane เองก็ไม่สามารถก้าวก่ายอำนาจของโค้ชในการจัดทีมลงสนามได้ จนในที่สุด Beane ตัดสินใจล้างบางผู้เล่นในสไตล์ “แบบดั้งเดิม” เขาทำกระทั่งปล่อย Carlos Pena ซึ่งเป็นซุปเปอร์สตาร์คนสุดท้ายของทีมออกไปเพื่อกดดันให้โค้ชจัดทีมลงสนามตามปรัชญาของเขา