9
กูรู"บูมเชียร์" หุ้นไทย ทองคำ“ไม่เจ๋ง”อย่ายุ่ง
มีเงิน แต่คิดไม่ตกว่าสินทรัพย์ใดหนอ
จะสร้างผลตอบแทนคุ้มค่า บนความผันผวน ตลาดทุน-ทอง-ค่าบาท-ดอกเบี้ย
กูรูฟันธง"ตลาดหุ้น" ยังน่าสนใจที่สุด
“ทองลง หุ้นผันผวน บาทแข็ง ดอกเบี้ยต่ำ” สถานการณ์เยี่ยงนี้
“เม่าน้อยมือใหม่” คงมืดแปดหน้า “มีเงิน” แต่ไม่รู้จะ “ต่อยอดเงิน”
ในสินทรัพย์ประเภทใด ทุกตลาดพร้อมใจ “ตก”อยู่ในอาการ “ผันผวน” เกินคาดเดา
ในมุม
“ตลาดหุ้น” เมื่อต้นปีที่ผ่านมา เหล่ากูรูออกมาตบโต๊ะทำนาย
SET INDEX 1,700 จุด สิ้นปีนี้ ได้เห็นแน่!!
หลังสร้างสถิติสูงสุดรายวัน ล่าสุดปิดตลาด “สูงสุด”1,598
จุด (15 มี.ค.56) ยิ้มได้ไม่นาน
ดัชนีก็ทยอยปรับตัวลดลงมาแตะ “จุดต่ำสุด”1,470 จุด ในช่วงเดือนเม.ย.
“เซียนทองคำ” ออกมาฟันธงเอาใจ “แฟนพันธุ์แท้”
คุณมีโอกาสสัมผัสราคา 2,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์!!
สุดท้ายเจอแรงเทขายทองคำของไซปรัส ส่งผลต่อจิตวิทยาการลงทุน ทำให้ในช่วงวันที่ 12-16
เม.ย.ที่ผ่านมา ราคาทองคำในตลาดโลกอ่อนตัวลงกว่า 200 เหรียญต่อออนซ์
ส่วน
“ค่าเงินบาท” ในช่วง 3 เดือนผ่านมา
(ก.พ.-เม.ย.) แข็งค่าไปแล้วประมาณ 6-7% สูงสุดในภูมิภาค
จากระดับ 29.81 บาทต่อดอลลาร์ในเดือนก.พ.56 มาอยู่ที่ 29.74 บาท ในเดือนมี.ค.และ 29.23 บาท ก่อนจะลงลึกไปแตะ 28.54 บาทในเดือนเม.ย.และขยับเป็น
29.28 บาท
“ค่าบาทมีแนวโน้มแข็งค่าต่อไปจาก 3 ปัจจัย
เศรษฐกิจที่ดีของเอเซียและอาเซียน สภาพคล่องทั้งในสหรัฐ
ยุโรปและญี่ปุ่นไหลกลับเข้ามาลงทุน และแรงกดดันจากการเก็งกำไรที่เข้ามาสมทบ”
คำทำนายของ “กอบศักดิ์ ภูตระกูล” ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ (BBL)
ด้าน
ดอกเบี้ยเงินฝาก คงในระดับไม่ถึง 4% (ฝากประจำ24 เดือน)
“โจ" อนุรักษ์
บุญแสวง นายกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า (ประเทศไทย)
เจ้าของพอร์ตลงทุน 9 หลัก วิเคราะห์เรื่องนี้ให้ “กรุงเทพธุรกิจ BizWeek” ฟังว่า
ความผันผวนของสินทรัพย์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นตลาดหุ้น หรือทองคำ ถือเป็นเรื่องปกติ การลงทุนในสินทรัพย์เหล่านี้ส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับอารมณ์ของนักลงทุน
อยาก
“ชนะ” ความผันผวน ข้อมูลต้องแน่น
ถ้ามั่นใจจะกลัวทำไม!!
“หุ้น-ทองคำ” จะขึ้นหรือลง หากคุณไม่ยึดติดในเรื่องของ
“ราคา” มากไปกว่าความมั่นใจในข้อมูล
ลงทุนอย่างไรก็ได้ “กำไร” เชื่อสิ!!
หลักการลงทุนแนว VI เราไม่เคยสนใจราคามากไปกว่าพื้นฐาน
วีไอของจริงมักซื้อหุ้นตอนมี “ข่าวร้ายชั่วคราว” และขายหุ้นช่วงมี “ข่าวดีชั่วคราว” เช่น มีกำไรจากรายการพิเศษ เป็นต้น
“โจ ลูกอีสาน” นามแฝงในเว็บไซต์ Thaivi
ถือโอกาสแนะนำมือใหม่ที่มีอายุไม่เกิน 40 ปี
ว่า คุณควรลงทุนในตลาดหุ้น 100% แบ่งเป็นลงทุนด้วยตัวเอง 50%
ที่เหลืออีก 50% นำไปลงทุนผ่านกองทุนรวมต่างๆ
ถามว่าทำไมถึงให้น้ำหนักไปในฝั่งตลาดหุ้น? จะเล่าสถิติให้ฟัง
ตลอด 38 ปี นับตั้งแต่ตลาดหุ้นก่อตั้งในปี 2518 “หุ้นไทย” ให้ผลตอบแทน 94 เท่า หรือคิดเป็นผลตอบแทนทบต้น
12-13% ต่อปี