ค่ายมายด์แชร์ เอเยนซี่เครือข่ายด้านการตลาดและการสื่อสาร กับผลสำรวจจากกระแสวัฒนธรรมและเทรนด์ เกี่ยวกับความมุ่งมั่นของผู้ประกอบการ Gen YระบุGenYไทยโดดเด่นนักสร้างสรรค์ศิลป์ ชอบเล่นหุ้น มีเงินเก็บเกิน 10 ล้านบาท แซงหน้า Gen Y ในญี่ปุ่นที่ไม่ชอบความเสี่ยง ย้ำเป็นเครื่องมือให้นักการตลาด แบรนด์สินค้า บริการต่างๆสามารถนำข้อมูลนี้มาปรับใช้ในกลยุทธ์การสื่อสารได้
รายงานดังกล่าวจัดทำขึ้น โดยมายด์แชร์เอเชียแปซิฟิคสาขาสิงคโปร์ โดยศึกษาข้อมูล จากผู้ประกอบการธุรกิจ Gen Y กว่า 300 คนใน 38 ประเทศ ซึ่งรววมถึง เมืองใหญ่ๆเช่น นิวยอร์ค ลอนดอน เซียงไฮ้ และกรุงเทพ เพื่อศึกษาว่าความคิดริเริ่มและไอเดียใหม่ๆของวัยรุ่นจะสามารถสร้างแรงบันดาลใจ และจุดประกายการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมการสื่อสารในสังคมได้อย่างไร
ผลการวิจัยCulture Vulture เป็นการนำเครื่องมือและฐานข้อมูล 2 ชุดของทีมวางแผนธุรกิจของมายด์แชร์มาใช้ร่วมกันในการศึกษาข้อมูล โดยกลุ่มแรกคือ Mindreader เป็นการใช้การศึกษาเชิงปริมาณจากฐานข้อมูลกว่า 40,000 คน ใน 40 ประเทศทั่วโลก โดยข้อมูลนี้ทำให้ทราบถึงประวัติและความต้องการของ Gen Y และกลุ่มที่สองคือข้อมูลเชิงคุณภาพที่มาจากเครือข่ายเทรนเซ็ตเตอร์ทั่วโลกของมายด์แชร์ (Mindshare’s Global Scout Network) ใน 38 เมืองทั่วโลก
หัวหน้าการทำวิจัยฉบับนี้ของมายด์แชร์ แคทเทอรีน วิลเลี่ยม ระบุว่า หลักของงานวิจัยฉบับแรกนี้มาจากพื้นฐานความเชื่อที่ว่าในบางครั้งธุรกิจที่อยากประสบความสำเร็จต้องหมั่นที่จะเรียนรู้จากมุมมองด้านอื่นบาง กล่าวคือ บริษัทระดับใหญ่สามารถเรียนรู้จากนักลงทุน Gen Yที่ว่องไวและมีความคิดสร้างสรรค์ได้
ขณะที่ ปัทมวรรณ สถาพร หัวหน้าฝ่ายวางแผนธุรกิจ มายด์แชร์ประเทศไทย กล่าวเสริมว่า “รายงานฉบับนี้ได้ระบุกระแสการทำธุรกิจทั่วโลกที่ไม่ซ้ำกันถึง 14 กระแส โดยมี Gen Y ที่อายุระหว่าง 16 ถึง 29 ปี ซึ่งเกิดระหว่างพ.ศ. 2525 -2538 เป็นผู้บุกเบิกและบริหารจนประสบความสำเร็จในกลุ่มธุรกิจขนาดเล็กถึงกลาง โดยกลุ่ม Gen - Y ในประเทศไทยนั้นมีส่วนอย่างมากต่อแนวคิดและกระแสแนวโน้มของผู้ประกอบการทั่วโลก”
รายงานดังกล่าวจัดทำขึ้น โดยมายด์แชร์เอเชียแปซิฟิคสาขาสิงคโปร์ โดยศึกษาข้อมูล จากผู้ประกอบการธุรกิจ Gen Y กว่า 300 คนใน 38 ประเทศ ซึ่งรววมถึง เมืองใหญ่ๆเช่น นิวยอร์ค ลอนดอน เซียงไฮ้ และกรุงเทพ เพื่อศึกษาว่าความคิดริเริ่มและไอเดียใหม่ๆของวัยรุ่นจะสามารถสร้างแรงบันดาลใจ และจุดประกายการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมการสื่อสารในสังคมได้อย่างไร
ผลการวิจัยCulture Vulture เป็นการนำเครื่องมือและฐานข้อมูล 2 ชุดของทีมวางแผนธุรกิจของมายด์แชร์มาใช้ร่วมกันในการศึกษาข้อมูล โดยกลุ่มแรกคือ Mindreader เป็นการใช้การศึกษาเชิงปริมาณจากฐานข้อมูลกว่า 40,000 คน ใน 40 ประเทศทั่วโลก โดยข้อมูลนี้ทำให้ทราบถึงประวัติและความต้องการของ Gen Y และกลุ่มที่สองคือข้อมูลเชิงคุณภาพที่มาจากเครือข่ายเทรนเซ็ตเตอร์ทั่วโลกของมายด์แชร์ (Mindshare’s Global Scout Network) ใน 38 เมืองทั่วโลก
หัวหน้าการทำวิจัยฉบับนี้ของมายด์แชร์ แคทเทอรีน วิลเลี่ยม ระบุว่า หลักของงานวิจัยฉบับแรกนี้มาจากพื้นฐานความเชื่อที่ว่าในบางครั้งธุรกิจที่อยากประสบความสำเร็จต้องหมั่นที่จะเรียนรู้จากมุมมองด้านอื่นบาง กล่าวคือ บริษัทระดับใหญ่สามารถเรียนรู้จากนักลงทุน Gen Yที่ว่องไวและมีความคิดสร้างสรรค์ได้
ขณะที่ ปัทมวรรณ สถาพร หัวหน้าฝ่ายวางแผนธุรกิจ มายด์แชร์ประเทศไทย กล่าวเสริมว่า “รายงานฉบับนี้ได้ระบุกระแสการทำธุรกิจทั่วโลกที่ไม่ซ้ำกันถึง 14 กระแส โดยมี Gen Y ที่อายุระหว่าง 16 ถึง 29 ปี ซึ่งเกิดระหว่างพ.ศ. 2525 -2538 เป็นผู้บุกเบิกและบริหารจนประสบความสำเร็จในกลุ่มธุรกิจขนาดเล็กถึงกลาง โดยกลุ่ม Gen - Y ในประเทศไทยนั้นมีส่วนอย่างมากต่อแนวคิดและกระแสแนวโน้มของผู้ประกอบการทั่วโลก”
3 ก๊ก Gen Y 2012
ผลการวิจัย Culture Vulture ได้ระบุลักษณะของผู้ประกอบการธุรกิจออกเป็น 14 ประเภทธุรกิจ โดยสามารถแบ่งพฤติกรรมผู้ประกอบการ Gen Y ได้เป็น 3 ประเภทซึ่งแบรนด์ต่างๆสามารถนำข้อมูลนี้มาปรับใช้ในกลยุทธ์การสื่อสารได้
กลุ่มแรก- ผู้บุกเบิก (Pioneer) หรือเป็นที่รู้จักในนามทหารผู้สันโดษ ผู้บุกเบิกมักจะเป็นผู้กล้าเสี่ยงในการลงทุนเพื่อขับตัวเองให้เป็นผู้เปลี่ยนแปลง ผู้สรรค์สร้างนวัตกรรมในการผลิตสินค้าและบริการที่ไม่เพียงแต่จะเปลี่ยนความคิดและความรู้สึกของเราที่มีต่อประเภทสินค้าเท่านั้น ยังปฏิวัติวิธีที่เราดำเนินชีวิตไปโดยสิ้นเชิง
กลุ่มสอง-นักสำรวจสังคม (Social Explorers) ผู้รักอิสระเป็นตัวของตัวเองและรักการผจญภัยมีแรงขับเคลื่อนจากการแสวงหาความเป็นจริงไปพร้อมๆกับความหมาย เป็นผู้ที่มีแรงปรารถนาที่จะมอบบางอย่างคืนกลับไปยังชุมชน ด้วยการช่วยให้ผู้คนสามารถเป็นอิสระและสามารถแสดงออกซึ่งบุคลิกภาพของตัวเอง โดยนักสำรวจสังคมท้าทายแบรนด์ด้วยการไม่แสดงตัวหรือไม่ออกนามในการสร้างแบรนด์ และยังท้าทายผู้บริโภคให้ลองประสบการณ์ใหม่ ๆ อีกด้วย
กลุ่มสาม- ผู้สร้างสรรค์ (Creator) หรือกลุ่มที่ไม่ตามกระแสสังคม ไม่อยู่ในกรอบ คือพวกที่มีแรงจูงใจจากการแสดงออกถึงตัวตน กลุ่มนี้มีแรงปรารถนาที่จะสร้างสรรค์สิ่งที่มีคุณค่าอย่างยั่งยืนและประสบความสำเร็จจากการเสาะแสวงหาการจินตนาการโลกรอบตัวในแบบใหม่ๆ ทั้งยังเป็นผู้ส่งเสริมนวัตกรรมอย่างต่อเนื่องอีกด้วย
Gen Y ไทยเด่นนักสร้างสรรค์
สำหรับประเทศไทย จากการสำรวจผู้ประกอบการ Gen Y มีลักษณะโดดเด่นด้านการเป็นนักสร้างสรรค์ โดยเฉพาะในกลุ่มที่ใช้งานศิลปะเป็นพื้นฐาน อาทิ ด้านอาหาร ด้านเสื้อผ้าแฟชั่น โดยนำความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ไปต่อยอดเป็นธุรกิจใหม่ๆ และมีการใช้เทคโนโลยีออนไลน์มาเป็นเครื่องมือและช่องทางจำหน่ายผ่านเว็บไซต์ เช่น การสร้างสรรค์กางเกงมวยไทย ที่ให้ลูกค้าทั่วโลกสามารถออกแบบได้เองผ่านเว็บไซต์ การเปิดร้านเสื้อผ้าแฟชั่นดีไซน์เฉพาะบุคคล การสร้างสรรค์เมนูอาหารที่แปลกใหม่ เป็นต้น
ขณะที่กลุ่มGen Y นักศึกษามหาวิทยาลัยและกลุ่มเริ่มต้นทำงาน มีทัศนคติไม่ต้องการเป็น "ลูกจ้าง" ทำงาน เพื่อรับเงินเดือนอีกต่อไป แต่ต้องการเป็นเจ้าของธุรกิจ เพื่อสร้างความมั่นคงให้ชีวิตในอนาคต เพราะกลุ่มเจนวาย เห็นประสบการณ์จากวิกฤติเศรษฐกิจในปี 2540 ที่พ่อแม่ต้องตกงาน และส่งผลกระทบต่อครอบครัว
พบว่ากลุ่มเจนวายที่ศึกษาระดับปริญญาตรี ช่วงปี 3 และปี 4 ของไทย รวมทั้งกลุ่มเริ่มต้นทำงาน สนใจเล่นหุ้นจำนวนมาก และพบว่ามีหลายคนที่มีเงินฝากเกิน 10 ล้านบาท ในขณะที่มีอายุไม่ถึง 30 ปี" น.ส.ปัทมวรรณกล่าว
นอกจากนี้ ยังมีข้อสรุปที่น่าสังเกตของGen Y อื่นๆทั่วโลก เช่น วัยรุ่นในบราซิลซึ่งถือว่าเป็นประเทศกำลังพัฒนาที่เร็วที่สุดของโลก ได้รับการส่งเสริมความคิดในเรื่อง “ผู้ประกอบการ” มากกว่าวัยรุ่นในออสเตรียเลียซึ่งเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจที่มั่นคงกว่า
ผู้ประกอบการหนุ่มสาวในอาร์เจนตินาและญี่ปุ่นติดอันดับต้นๆในแง่ของความคิดสร้างสรรค์ ในขณะที่สหราชอาณาจักรและอินโดนีเซียติดอันดับในแง่การมีความเชื่อมั่นในตัวเองทำให้เกิดความคิดใหม่ๆในการทำธุรกิจ
ส่วน Gen Y ในประเทศจีนกว่า 60 % ของ เปิดรับความคิดในเรื่องของความเสี่ยงในการลงทุน ในขณะที่ Gen Y ในญี่ปุ่นเพียงแค่ 15 %เท่านั้นที่เป็นเช่นนั้น ไม่เพียงเท่านี้ เมื่อภูมิทัศน์ทางธุรกิจของฮ่องกงกำลังปรับเปลี่ยนกระบวนทัศน์ เพื่อให้สมดุลกับการเพิ่มขึ้นของผู้ประกอบการ Gen Y ในขณะที่ Gen Y ของเกาหลีใต้พอใจที่จะเริ่มดำเนินการเกี่ยวกับเทคโนโลยี สืบเนื่องมาจากโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ
อย่างไรก็ตาม ผลการศึกษาพฤติกรรมกลุ่มเจนวายดังกล่าว สามารถช่วยนักการตลาดวางแผนการสื่อสารและกิจกรรมการตลาด เพื่อเข้าถึงกลุ่มเจนวายได้ตรงกับไลฟ์สไตล์มากขึ้น ซึ่งถือเป็นกลุ่มที่เป็นผู้นำเทรนด์ต่างๆ ของโลก ถือเป็นผู้มีอิทธิพลในการผลักดันเศรษฐกิจและสังคมในอนาคต
ปัจจุบันกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง คือ เบบี้บูมเมอร์ วัย 50 ปีขึ้นไป ตามมาด้วย Gen X ในช่วงอายุ 30-40 ปี และเจนวาย ซึ่งจะเป็นกลุ่มที่เป็นผู้นำเทรนด์ผู้บริโภคในอนาคตยุคต่อไป จากข้อมูลผลสำรวจดังกล่าวมายด์แชร์จะนำไปเสนอลูกค้า เพื่อวางแผนการสื่อสารให้กับแบรนด์ต่างๆ ที่มีกลุ่มเป้าหมายเจนวาย รวมทั้งจะจัดทำวิจัยดังกล่าวทุกไตรมาส
มาร์โค่ ริมีนี หัวหน้าระดับโลกฝ่ายวางแผนธุรกิจ มายด์แชร์ กล่าวว่า “การเข้าใจเทรนด์ และกระแสวัฒนธรรม ทำให้เราสามารถเข้าใจในพฤติกรรมผู้บริโภคได้ดีกว่าการอ้างอิงข้อมูลพฤติกรรมการรับสื่อของผู้บริโภคปัจจุบันเพียงอย่างเดียว เราทำการวิจัย Culture Vulture ขึ้นมาเพื่อให้ลูกค้าและทีมของเราเข้าใจเทรนด์ด้านนี้มากขึ้น รวมไปถึงให้แรงบันดาลใจเพื่อให้เกิด original thinking หรือแนวคิดที่ใหม่และแตกต่างในการวางกลยุทธ์การใช้สื่อ”
10 กุญแจพิชิต Generation Y
*จงหาแรงบันดาลใจจากโลกรอบตัวคุณ (ไม่ใช่จากประเภทสินค้าที่คุณทำ)
*จงตามข้อมูลเชิงลึก - สร้างประโยชน์อย่างแท้จริง และเป็นผู้เปลี่ยนแปลงนวัตกรรม
*จงเป็นผู้อำนวยความสะดวกและเป็นผู้นำที่มีวิสัยทัศน์
*จงทำงานร่วมกันเพื่อการคิดค้นสิ่งใหม่ๆ : การเชิญเข้าร่วมงาน ; การรวมตัวกันการส่งเสริมสนับสนุนการให้ความรู้ผู้อื่น
*จงสร้างชุมชน
*จงพูดถึงดิจิตอลเพื่อจุดชนวนการสนทนา และการสนับสนุนให้เกิดการสำรวจความคิดต่างๆ
*จงให้ความสำคัญอันดับแรกกับงานประชาสัมพันธ์ (Earned Media) สร้างความสัมพันธ์และการมีส่วนร่วมให้มากขึ้นกับกลุ่มที่เป็น Influencer และให้ความสำคัญกับการมีคนรับประกันสนับสนุนแบรนด์
*จงสร้างและแบ่งปันเรื่องราวและข้อมูลที่เป็นประโยชน์ (Content)
*จงฉลองและให้รางวัลแก่ผู้เข้าร่วมกิจกรรม : ทำให้ผู้ร่วมกิจกรรมของคุณเป็นวีรบุรุษ
*จงจริงใจกับแบรนด์ของคุณ - ถามตัวเองว่าคุณเป็นผู้ประกอบการแบบไหน
โดย ผู้จัดการ 360° รายสัปดาห์
|
8 มีนาคม 2555
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น