วันพุธที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2555

ตัวอย่างหุ้น Leader Stock กรณี Classic บริษัท Apple

ถ้าเราค้นพบบริษัทที่สามารถทำกำไรเติบโตได้ต่อเนื่อง และ % เติบโตสูงมาก การที่เราซื้อตอน PE สูงๆ ก็อาจจะยังไม่สายไป ถ้ามันเพิ่งเป็นช่วงแรกๆของการเติบโต

จากรูป ช่วงปี 2006 หุ้น Apple ตอนที่เกิด Breakout ที่ราคา 70.1$ PE ณ ตอนนั้นคือ 32 เท่า ถือว่าสูง
แต่หุ้นก็ยังสามารถขึ้นไปจาก 70$ ไปจนถึง 180$ (ขึ้นมา 157%) ก่อนที่จะตกลงมาแรงเหลือราวๆ 90$ เพราะเกิดวิกฤต 2008
แต่ให้สังเกตที่ EPS Growth ของบริษัท ตั้งแต่ปี 2006 - 2012 จะเห็.นว่ากำไรโตมากๆ (EPS โตจาก 2.27$ เป็น 27.68$)
นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้ราคาหุ้นของ Apple ก็ยังสามารถเพิ่มขึ้นทำ New High ไปได้เรื่อยๆ หลังจากผ่านวิกฤต 2008
พอมาปี 2011 หุ้น Apple ตอนจุด Breakout ที่ราคา 427.85 $
PE กลับเหลือแค่ 12 เท่า ทั้งๆที่หุ้นขึ้นมาถึง 510% จากปี 2006
Case ของ Apple ผมคิดว่า การที่เราจะเจอบริษัทที่ EPS โตได้มากมายขนาดนี้ คงจะหายากหน่อย (ไม่นับหุ้น cycle, commodity)
ถ้าจะเอาเป็นหุ้นไทยใกล้ๆตัว ที่ผมนึกออกและเห็นชัดๆก็กลุ่มค้าปลีก CPALL MAKRO HMPRO, หุ้นอาหารยอดนิยมอย่าง CPF, หรือหุ้นเล็กอย่าง JUBILE พวกนี้กำไรโตค่อนข้างดีและยั่งยืน ไม่สวิงมาก ราคาหุ้นก็ขึ้นมาหลายเด้งทุกตัว และเทรดกันที่ PE สูงตลอดเวลา (ยกเว้นเกิดวิกฤตแรงๆ)
หรือพวกหุ้น Blue Chip อย่าง PTT ที่ขึ้นมาจาก IPO 30 บาท จนปัจจุบัน 300 กว่า ก็เพราะ EPS Growth เช่นกันครับ แต่ข้อเสียของ Blue Chip คือโอกาสที่กำไรจะโตมากๆค่อนข้างยากแล้ว เพราะฐานกำไรที่ใหญ่ ทำให้บริษัทพวกนี้มักจะหาทางโตด้วยการซื้อกิจการแทน
ดังนั้น ถ้าเราสามารถขุดเจอหุ้นที่มีแนวโน้มดีมาก ก่อนที่มันจะกลายเป็น Blue Chip ได้ก็ยิ่งดีครับ เพราะแสดงว่าเีราเจอบริษัทนี้ ณ ช่วงแรกๆของการเติบโตเลย
"มองหาหุ้นสุดยอด มองหา *Sustainable Strong Sale & Earning Growth* "

บทความจาก  ลงทุน หุ้น www.sarut-homesite.net
http://on.fb.me/IkfU0L
 


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น